28 April 2020
ไม่ว่าสถานการณ์ COVID-19 นี้จะจบเมื่อไร แต่มันได้ทำให้พฤติกรรมและวิถีชีวิตของทั้งร้านอาหารและนักชิมเปลี่ยนไปตลอดกาลเรียบร้อยแล้ว
ถึงแม้ว่าร้านจะกลับมาเปิดให้บริการได้เร็ว ๆ นี้ แต่นโยบายการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distacing) ก็ยังต้องมีอยู่ ร้านที่เปิดต้องลดจำนวนโต๊ะลงกว่าครึ่งหนึ่ง แปลว่ารายได้ก็น่าจะหายไปครึ่งหนึ่งอยู่ดี ลองดูวิดีโอด้านล่างนี้ของลงทุนแมนดู
จะเห็นว่าร้านอาหารคงไม่สามารถเดินตามวิถีเดิมก่อน COVID-19 ไปอีกสักพักใหญ่เลยทีเดียว
การปรับตัวโดยการยืนอยู่ด้วยตัวเองเท่านั้นถึงจะอยู่รอดได้ในระยะยาว
ขณะนี้ (ณ วันที่เขียน) ร้านอาหารได้ปรับเปลี่ยนการให้บริการไปเป็นการส่งถึงบ้านหรือให้มารับที่หน้าร้านกันเกือบหมดแล้ว และส่วนใหญ่ก็หันไปพึ่งพิงระบบบริการสั่งอาหารต่าง ๆ โดยยอมเสียค่าคอมมิสชั่น หรือค่าบริการร้านค้า
หรือค่า GP ให้กับทุกรายการที่ขายได้ เกือบทุกเจ้าจะอยู่ที่ประมาณ 30%
ขายเยอะเสียเยอะ ขายน้อยเสียน้อย ขายไม่ได้ก็ไม่เสีย
ฟังดูก็แฟร์ ๆ ดี
แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะโดนเก็บเพิ่มอีกหรือเปล่าในอนาคต เพราะบริษัทเหล่านี้ยังขาดทุนอยู่มหาศาล (อ้างอิงจากบทความ "กรณีศึกษา ทำไมธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่
ไม่ได้กำไรอย่างที่เราคิด" ของลงทุนแมน)
จะดีกว่ามั้ยถ้าไม่ต้องเสียส่วนแบ่งเหล่านี้เลย?
🇹🇭 ไทยต้องเป็นที่พึ่งแห่งไทย ทำไมร้านอาหารไม่ร่วมมือกับวินมอเตอร์ไซค์ใกล้ ๆ ร้านแล้วทำระบบจัดส่งขึ้นมาเองล่ะ?
หรือจะให้ง่ายกว่านั้น อาจจะลองให้พนักงานเสิร์ฟที่มีมอเตอร์ไซค์รับรายได้เสริมจากการส่งอาหารของทางร้านก็ได้
👩🍳   ร้านอาหารขายได้เงินเต็ม ๆ
🛵   พนักงานหรือวินมอเตอร์ไซค์มีรายได้เสริม
🙋   ลูกค้าได้ซื้ออาหารในราคาเดียวกันกับที่ขายที่ร้าน
การร่วมมือร่วมใจของคนใกล้ตัวนี่แหละ คือการวิน-วิน-วิน และนั่นคือทางรอดของร้านอาหารที่จะยืนอยู่ได้ด้วยตัวเองในระยะยาว
เพราะว่าโลกของเราต้องเป็นแบบนี้ไปอีกสักระยะจนกว่าจะมีวัคซีน ซึ่งก็คาดการณ์ว่าไม่ต่ำกว่า 1-1.5 ปี ผู้คนถึงจะกล้ากลับมาใช้ชีวิตได้ตามปรกติ และร้านค้าถึงจะสามารถเปิดให้บริการได้เต็มที่เหมือนเช่นเคย
การมีช่องทางการขายส่งถึงบ้านอีกช่องทางหนึ่งจึงยิ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว
ใครที่ยังไม่เริ่มขยับถือว่าอันตรายมาก ๆ
ร้านส่วนใหญ่ที่ยังไม่ตัดสินใจทำบริการเดลิเวอรี่อาจจะติดอยู่ที่ปัญหาเดียว นั่นก็คือการหาระบบการรับสั่งอาหารอัตโนมัติในแบบที่ไม่ต้องเสียค่าคอมมิสชั่นนั้น จะหาได้ที่ไหน?
หรือถ้าหาแบบไม่มีค่าคอมมิสชั่นได้... ค่าส่งก็แพงลิบลิ่ว จนลูกค้าบ่นว่าค่าส่งแพงกว่าค่าอาหารเสียอีก
และระบบเหล่านี้ก็ไม่เคยให้ร้านค้าได้ครอบครองข้อมูลลูกค้าเลย ทำให้ไม่มีข้อมูลอะไรเอาไปต่อยอดในการทำการตลาดสักเท่าไหร่
Every Inbox ขอแนะนำแชทบอทระบบสั่งอาหารอัตโนมัติผ่าน Inbox ของเพจ Facebook ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางร้านเองอยู่แล้ว สามารถเก็บข้อมูลทุกอย่างของลูกค้าได้เป็นของตัวเอง เพื่อนำไปต่อยอดทางการตลาดของร้านได้อีกมากมาย
ทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า การยิงโฆษณาตรงเข้า Messenger ที่แม่นยำ การทำ Remarketing หาลูกค้าชั้นดี หรือการหาลูกค้าใหม่ ๆ ด้วยการทำ Custom Audience ที่มีคุณภาพสูงกว่าปรกติ
ที่สำคัญคือไม่มีค่าคอมมิสชั่นใด ๆ ในทุกรายการสั่งซื้อ และรับเงินสดตรงเข้าบัญชีธนาคารของร้านเอง ไม่ต้องรอเบิกเงินเป็นงวด ๆ อีกต่อไป